ตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit ผ่านระดับแนวรับและแนวต้าน
ผู้เขียน:   2024-10-21   คลิ:4

การตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit ด้วยแนวรับและแนวต้าน

แนวรับและแนวต้านเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคในตลาด Forex โดยแนวรับทำหน้าที่เป็นจุดที่ราคามีแนวโน้มจะหยุดการลดลงและกลับตัวขึ้น ในขณะที่แนวต้านเป็นจุดที่ราคามีแนวโน้มจะหยุดการขึ้นและกลับตัวลง การใช้แนวรับและแนวต้านสามารถช่วยให้นักเทรดวางแผนการตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit ผ่านระดับแนวรับและแนวต้าน

การตั้งค่า Stop Loss ด้วยแนวรับและแนวต้าน

การตั้งค่า Stop Loss เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการสูญเสียเงินทุนหากตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับการคาดการณ์ นักเทรดสามารถใช้แนวรับและแนวต้านในการกำหนดจุด Stop Loss ได้ดังนี้:

  • ในกรณีเปิดสถานะซื้อ: ควรตั้งค่า Stop Loss ไว้ที่ต่ำกว่าแนวรับเล็กน้อย เพื่อป้องกันการขาดทุนหากราคาลงทะลุแนวรับ
  • ในกรณีเปิดสถานะขาย: ควรตั้งค่า Stop Loss ไว้ที่สูงกว่าแนวต้านเล็กน้อย เพื่อป้องกันการขาดทุนหากราคาขึ้นทะลุแนวต้าน

การตั้งค่า Take Profit ด้วยแนวรับและแนวต้าน

การตั้งค่า Take Profit ช่วยให้นักเทรดสามารถล็อกกำไรเมื่อราคาถึงระดับที่ต้องการ การใช้แนวรับและแนวต้านในการตั้งค่า Take Profit สามารถทำได้ดังนี้:

  • ในกรณีเปิดสถานะซื้อ: ควรตั้งค่า Take Profit ที่แนวต้านถัดไป ซึ่งเป็นจุดที่ราคามีโอกาสหยุดขึ้นและกลับตัวลง
  • ในกรณีเปิดสถานะขาย: ควรตั้งค่า Take Profit ที่แนวรับถัดไป ซึ่งเป็นจุดที่ราคามีโอกาสหยุดลงและกลับตัวขึ้น

การใช้เครื่องมือเพิ่มเติมในการตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit

นอกจากการใช้แนวรับและแนวต้านในการตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit แล้ว นักเทรดยังสามารถใช้เครื่องมืออื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ เช่น:ตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit ผ่านระดับแนวรับและแนวต้าน

  • Fibonacci Retracement: ใช้ในการกำหนดระดับการย้อนกลับของราคาเพื่อหาจุดที่เหมาะสมในการตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit
  • Moving Averages: ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นแนวรับหรือแนวต้านเพิ่มเติม
  • RSI (Relative Strength Index): ใช้ RSI ในการวิเคราะห์แรงซื้อและขาย เพื่อหาจุดกลับตัวของราคา

ตัวอย่างการตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit

สมมติว่าในกราฟ EUR/USD ราคามีแนวรับที่ 1.1000 และแนวต้านที่ 1.1200 นักเทรดสามารถเปิดสถานะซื้อที่ 1.1000 และตั้งค่า Take Profit ที่แนวต้าน 1.1200 พร้อมตั้ง Stop Loss ที่ต่ำกว่าแนวรับเล็กน้อย เช่น 1.0950

ข้อดีและข้อเสียของการใช้แนวรับและแนวต้านในการตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit

ข้อดี

  • ช่วยให้นักเทรดสามารถจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เป็นวิธีที่ช่วยล็อกกำไรได้เมื่อราคามาถึงเป้าหมาย
  • เหมาะสำหรับการวางแผนการซื้อขายในระยะสั้นและระยะยาว

ข้อเสีย

  • แนวรับและแนวต้านอาจไม่แม่นยำในตลาดที่มีความผันผวนสูง
  • การตั้งค่า Stop Loss ใกล้แนวรับหรือแนวต้านมากเกินไปอาจทำให้เกิดการถูกกระตุ้นได้ง่าย

สรุปแล้ว การใช้แนวรับและแนวต้านในการตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร อย่างไรก็ตาม นักเทรดควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์อื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ยงในการซื้อขาย

เปิดบัญชีกับ
โบรกเกอร์ Dupoin

สมัครสมาชิกกับเรา ผ่านโบรกเกอร์ Dupoin

**สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด สำหรับสมาชิกเท่านั้น!!

เกี่ยวกับเรา

ติดต่อเรา

เรื่องที่น่ารู้

forextradingideasblog คือเว็บไซต์ที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และ Cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Litecoin และ Dogecoin รวมถึงข้อมูลข่าวสารที่อัปเดตอย่างรวดเร็วทันทุกการเคลื่อนไหวในตลาดเหล่านี้

 

เราไม่สนับสนุนการชักชวนให้เทรดหรือระดมทุนในทุกกรณี เราเป็นเพียงสื่อกลางที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เท่านั้น

 

**การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกชนิดมีความเสี่ยง นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรควรทำความเข้าใจก่อนที่จะเข้าซื้อขายสินทรัพย์นั้นๆ**

 

ข้อมูลลิขสิทธิ์และนโยบายการใช้งานของ forextradingideasblog

ติดต่อทางอีเมล: [email protected]

ติดต่อเพิ่มเติมทาง Line:

Copyright 2024 forextradingideasblog © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามทำซ้ำหรือคัดลอกข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

เรามีนโยบายในการนำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง ข้อมูลทั้งหมดที่นำเสนอไม่มีเจตนาในการชักชวน ชี้นำ หรือให้คำแนะนำในการลงทุน

Related Links:

การเทรดคืออะไร