คุณเหมาะกับการเทรดแบบไหน: เทรดยาว, เทรดสั้น, หรือเทรดภายในวัน?
ผู้เขียน:   2024-11-18   คลิ:3

ช่วงเวลาไหนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเทรด?

ดังที่พวกเราทราบกันว่า การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเทรดนั้น ขึ้นอยู่กับความคิดและลักษณะของตัวเอง หากคุณเป็นคนทำงานอย่างละเอียด รวดเร็วไม่มากนัก มีนิสัยใช้เวลานานในการเทรดแต่ละครั้ง คุณควรให้ความสำคัญกับกรอบเวลาที่ยาวขึ้น สำหรับการเทรดยาว หรือหากคุณชอบความตื่นเต้น รวดเร็วและอยากให้มีสไตล์การดำเนินการที่รวดเร็ว คุณควรลองดูกราฟ 5 นาที สำหรับการเทรดระยะสั้น จากด้านล่างนี้ เราได้นำเสนอกล่าวถึงกรอบเวลาเบื้องต้นและความแตกต่างระหว่างกรอบเวลาทุกประเภทให้ทุกคนได้ศึกษา คุณเหมาะกับการเทรดแบบไหน: เทรดยาว, เทรดสั้น, หรือเทรดภายในวัน?

การเทรดยาว

นักเทรดยาวมักจะดูกราฟประจำวันและประจำสัปดาห์ กราฟประจำสัปดาห์จะให้มุมมองระยะยาวขึ้น และกราฟประจำวันจะมีข้อมูลในรูปแบบที่สะดวกต่อการเปรียบเทียบ การเทรดยาวจะใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน มักจะใช้เวลาตั้งแต่หลายสัปดาห์จนถึงหลายเดือน บางครั้งอาจมีการเทรดที่ยาวนานถึงหลายปี

ข้อดี:

● ไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับการเปลี่ยนแปลงในตลาดประจำวันมากเกินไป
● การเทรดมีระยะเวลานาน ทำให้มีการซื้อขายน้อยครั้ง หมายถึงมีค่านายหน้าที่ต้องจ่ายน้อยลง
● มีเวลามากขึ้นสำหรับการพิจารณา ไม่ต้องรู้สึกเครียด

ข้อเสีย:

● ปริมาณการเปลี่ยนแปลงราคาที่ใหญ่ มักเกิดขึ้นปีละ 1 หรือ 2 ครั้ง ต้องมีความอดทน
● หากคุณลงทุนเป็นจำนวนมาก การเปลี่ยนแปลงราคาจะมีความสูงมากขึ้น
● ด้วยระยะเวลาการเทรดที่นาน อาจจะมีสถานการณ์ขาดทุนติดต่อกันหลายเดือน

การเทรดระยะสั้น

นักเทรดระยะสั้นจะใช้งานกรอบเวลาแบบชั่วโมง และถือโพซิชันได้นานตั้งแต่ไม่กี่ชั่วโมงไปจนถึงหนึ่งสัปดาห์

ข้อดี:

● การเทรดระยะสั้นจะมีโอกาสในการเทรดมากขึ้น
● แทบจะไม่มีสถานการณ์ที่ขาดทุนติดต่อกันเป็นเดือน
● ไม่ต้องพึ่งพาการทำกำไรในการเทรดที่กินเวลานานหลายปี

ข้อเสีย:

● ค่าใช้จ่ายในการทำการเทรดจะสูงขึ้น (มีค่าใช้จ่ายในการซื้อขายมากขึ้น)
● ความเสี่ยงจากการถือโพซิชันข้ามคืนกลายเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณา

การเทรดภายในวัน

นักเทรดภายในวันใช้กราฟแบบนาที เช่น กราฟ 1 นาที หรือ 15 นาที เวลาที่ใช้ในการเทรดจะตั้งแต่เปิดตลาดไปจนถึงตลาดปิด

ข้อดี:

● มีโอกาสในการเทรดมากขึ้น
● ไม่มีสถานการณ์ขาดทุนติดต่อกันเป็นเดือน และไม่มีความเสี่ยงจากการถือโพซิชันข้ามคืน

ข้อเสีย:

● ค่าใช้จ่ายในการทำการเทรดจะสูงขึ้น (มีค่าใช้จ่ายในการซื้อขายมากขึ้น)
● การเทรดภายในวันอาจจะใช้เวลาและความพยายามมาก เนื่องจากต้องมีการติดตามความเปลี่ยนแปลงในตลาดอยู่เสมอ
● ผลกำไรจะถูกจำกัด เพราะต้องปิดโพซิชันภายในวันคุณเหมาะกับการเทรดแบบไหน: เทรดยาว, เทรดสั้น, หรือเทรดภายในวัน?

คำแนะนำ

ก่อนที่คุณจะเลือกประเภทการเทรดใดๆ คุณต้องพิจารณาถึงจำนวนเงินทุนที่คุณจะใช้ในการเทรด การเทรดระยะสั้นจะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากมาร์จิ้นได้ดีขึ้น และมีการตั้งค่าหมดทุนที่เคร่งครัด ในขณะที่การเทรดยาวจะต้องการระยะเวลาที่ยาวนานในการหยุดเงินทุน ดังนั้นหากคุณมีบัญชีขนาดใหญ่ จะสามารถรับมือกับความผันผวนของตลาดได้ดี โดยไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการส่งมอบมาร์จิ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ให้คุณจำไว้ว่าการเลือกประเภทการเทรดใด ๆ ต้องเหมาะสมกับคุณเอง ด้วยเหตุนี้เราจึงแนะนำให้คุณลองทำการเทรดในกรอบเวลาต่างๆ สักระยะหนึ่ง เพื่อหาพื้นที่ที่คุณรู้สึกสบาย เมื่อคุณเลือกกรอบเวลาที่เหมาะสมกับคุณแล้ว นั่นแหละคือการค้นพบวิธีการเทรดที่ดีที่สุดและสนุกสนานสำหรับคุณ ขอให้คุณเทรดอย่างมีความสุข

ติดต่อเรา SY-Tech:

เว็บไซต์: www.sytraders.tech
โทรศัพท์: +86 13661760593 (สิ่งเดียวกับ WeChat)
อีเมล: [email protected]
ติดตามช่องทาง: SY-admin



ความคิดเห็นของผู้ใช้

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

เปิดบัญชีกับ
โบรกเกอร์ Dupoin

สมัครสมาชิกกับเรา ผ่านโบรกเกอร์ Dupoin

**สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด สำหรับสมาชิกเท่านั้น!!

เกี่ยวกับเรา

ติดต่อเรา

เรื่องที่น่ารู้

forextradingideasblog คือเว็บไซต์ที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และ Cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Litecoin และ Dogecoin รวมถึงข้อมูลข่าวสารที่อัปเดตอย่างรวดเร็วทันทุกการเคลื่อนไหวในตลาดเหล่านี้

 

เราไม่สนับสนุนการชักชวนให้เทรดหรือระดมทุนในทุกกรณี เราเป็นเพียงสื่อกลางที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เท่านั้น

 

**การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกชนิดมีความเสี่ยง นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรควรทำความเข้าใจก่อนที่จะเข้าซื้อขายสินทรัพย์นั้นๆ**

 

ข้อมูลลิขสิทธิ์และนโยบายการใช้งานของ forextradingideasblog

ติดต่อทางอีเมล: [email protected]

ติดต่อเพิ่มเติมทาง Line:

blog

Copyright 2024 forextradingideasblog © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามทำซ้ำหรือคัดลอกข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

เรามีนโยบายในการนำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง ข้อมูลทั้งหมดที่นำเสนอไม่มีเจตนาในการชักชวน ชี้นำ หรือให้คำแนะนำในการลงทุน