ไม่กลัวตลาด

เพราะฉันไม่กลัว ฉันไม่กลัวที่จะถูกตลาดตีหน้า ไม่กลัวการขาดทุน ไม่กลัวที่จะพลาดโอกาส ไม่กลัวที่จะไม่ทำกำไรในช่วงหลายเดือน ฉันไม่รีบร้อนที่จะทำกำไร ไม่ต่อสู้กับตลาด ฉันไม่เพ้อฝันเกี่ยวกับตลาด ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตลาดเท่านั้น ฉันแค่กินกำไรเล็กน้อย ไม่หวังจะได้ปลาเต็มที่ มักจะวางแผนการป้องกันตัวให้ดี ใช้ชิ้นส่วนเล็กน้อยในการเสี่ยง ทุกครั้งที่ผิดพลาด ฉันจะยอมแพ้ ไม่หลงหวัง ไม่เพ้อฝันว่าจะได้กำไรมหาศาล เมื่อทำกำไรได้ ฉันก็นึกไม่ออกว่าจะทำให้กำไรขยายใหญ่ไปเรื่อยๆ อีกต่อไป อยากได้กำไรประมาณนึงก็พอ ไม่ต้องวิตกกังวลว่าถ้าต้องการกำไรสูงๆ นั้นให้เป็นเรื่องของคนอื่นไปเถอะ

ความสำคัญของการป้องกัน

ในที่สุด ฉันได้เตรียมการป้องกัน เมื่อใดก็ตามที่ตลาดโจมตีฉัน ฉันต้องเผชิญกับการทดสอบมากมาย อาจมีสัปดาห์หรือเดือนแห่งการตกต่ำ ฉันเหมือนคนโง่ที่ถูกตีหน้า จนหน้าบวม ตลาดมักใช้วิธีที่รุนแรงเพื่อทำลายความมั่นใจของฉัน ทดสอบความตั้งใจของฉัน มันกระตุ้นให้ฉันแสดงความเครียด โกรธแค้น แรงจูงใจให้ฉันแก้แค้นกับมัน แต่ยิ่งฉันขาดทุนมาก ฉันกลายเป็นคนเยือกเย็นมากขึ้น ยิ่งขาดทุนมาก ยิ่งมั่นใจมาก ยิ่งมีวินัยมาก เพราะนี่คือการทดสอบ นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดที่จะนำพาไปสู่ความแตกต่างระหว่างการทำกำไรและการขาดทุน ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการทำกำไรและการขาดทุนที่นี่

การออกแบบระบบการเทรด

ดังนั้น ในช่วงเวลานี้ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมีการเปิดและปิดตามสัญญาณของระบบ อย่าระแวง ระวังให้มากขึ้น ด้วยการฝึกฝนและประสบการณ์ในการลุกขึ้นจากการถอนตัวและการทดสอบอย่างรุนแรงเป็นครั้งที่ หนึ่ง สอง สิบ สี่สิบ ครั้ง ถึงจะสามารถสร้างใจที่แข็งแกร่ง เกิดใจที่เคารพตลาดเสมอ ใจที่เชื่อมั่นแม้จะประสบกับความยากลำบาก

ความท้าทายในตลาดการเทรด

การเทรดนั้นยาก ถึงแม้ว่าจะมีระบบและวิธีการที่ดี แต่ก็เป็นเพียงก้าวแรกในการเดินทางอันยาวไกล การทดสอบในอนาคตเพิ่งเริ่มต้น แม้ว่าจะผ่านอุปสรรคมาอย่างมากมาย ก็ยังไม่มีการรับประกันว่าจะประสบความสำเร็จ หากไม่มีโชคชะตา ก็ยากที่จะยืนหยัดต่อไป

การเคารพตลาด

วัตถุประสงค์ในการออกแบบระบบการเทรดยังคงเป็นการยอมรับตลาด คือการเคารพตลาด ยิ่งคนเราเคารพกฎเกณฑ์การเทรดมากเท่าไร ก็ยิ่งเคารพตลาดมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งเคารพตลาดมาก ตลาดก็ยิ่งเคารพเรามากขึ้น

เราไม่ต้องกลัวตลาด

เคารพตลาดแต่ไม่ต้องกลัวตลาด เพราะตลาดไม่ใช่ศัตรูของเรา แต่กลับเป็นเพื่อนของเรา