ความสัมพันธ์ระหว่างการซื้อขายเชิงวัตถุและการซื้อขายตามโปรแกรม

เนื่องจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคมีการอนุมานที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์มากมาย ทำให้เกิดความผิดพลาดทางจิตวิทยาของมนุษย์ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกผิดพลาด การวิเคราะห์นี้จึงไม่ได้รับความนิยมจากวงการวิชาการ โดยมักถูกมองว่าเป็นแค่การเล่นแร่แปรธาตุทางการเงินหรือวิธีการวิเคราะห์ที่ผู้ค้าสูงเสียงในตลาดใช้ โดยไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคในตลาดการเงิน (โดยเฉพาะในตลาดตัวเลือก) เป็นวิธีการวิเคราะห์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในภาคปฏิบัติ。

การยอมรับจากวงการวิชาการ

เริ่มมีเอกสารทางวิชาการจำนวนมากที่ยอมรับความจริงที่ว่าการวิเคราะห์นี้ถูกนำไปใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์อย่างเคร่งครัดในการตรวจสอบความมีประสิทธิภาพของการวิเคราะห์ทางเทคนิค หนังสือของ David Aronson เรื่อง Evidence Based Technical Analysis (ชื่อภาษาไทย: การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีหลักฐานพูดถึง, แปลโดยหวงเจียปิน) ได้พยายามที่จะสร้างกระบวนการวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ในช่วงหลังของหนังสือส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์จะใช้ S&P 500 เป็นกลุ่มตัวอย่างและมีการทดสอบความมีประสิทธิภาพของการวิเคราะห์ทางเทคนิคโดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์。

วิธีการทางวิทยาศาสตร์

วิธีการทางวิทยาศาสตร์เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มการซื้อขายเชิงวัตถุจากการซื้อขายเชิงอัตนัย เราไม่สามารถบอกได้ว่าการซื้อขายเชิงอัตนัยไม่มีค่า แต่สะท้อนให้เห็นว่าเพียงแค่การตั้งสมมติฐานที่กล้าหาญ ในขณะที่การตรวจสอบอย่างระมัดระวังก็ต้องใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการประเมิน ซึ่งทั้งสองจะทำการวิเคราะห์เชิงประจักษ์ในขั้นตอนต่างๆ。

การนำเสนอข้อมูล

ในชุดของบทความเกี่ยวกับการซื้อขายจากเชิงอัตนัยไปสู่วัตถุ รวมถึงการจัดเรียงเนื้อหาบางส่วนของหนังสือดังกล่าวและแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของฉัน วิธีทางวิทยาศาสตร์สามารถใช้การวิเคราะห์จากข้อมูลตลาดเพื่อค้นหาความรู้ที่มีค่า ความรู้หมายถึงความเชื่อที่มีหลักฐาน โดยมีพื้นฐานการสร้างคือการอธิบาย การอธิบายจะต้องรวมถึงเหตุการณ์ที่สามารถคาดการณ์ได้เพื่อให้สามารถทดสอบได้ ผ่านการทดสอบทางสถิติเพื่อยืนยันความถูกต้องของความเชื่อนั้นๆ

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค

การวิเคราะห์ทางเทคนิคจำเป็นต้องผ่านกระบวนการวิเคราะห์เชิงวัตถุในการยืนยันความถูกต้องของความรู้ที่ได้รับจากพฤติกรรมตลาด ผลการวิเคราะห์จะถูกยกระดับให้เข้าสู่สถานะการวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์

การเปรียบเทียบการวิเคราะห์

เมื่อเปรียบเทียบกับการวิเคราะห์เชิงวัตถุแล้วการวิเคราะห์เชิงอัตนัยไม่เหมาะสำหรับการดำเนินการโดยคอมพิวเตอร์และไม่เหมาะสำหรับการทดสอบในอดีต ดังนั้นจึงยากที่จะไม่เห็นด้วย ผลการวิเคราะห์ขึ้นอยู่กับบุคคล แต่ก็เหมือนกับศาสนาที่มีผู้ศรัทธาอยู่มาก อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์เชิงอัตนัยไม่มีการกำหนดวิธีการและรูปแบบอย่างชัดเจน ไม่สามารถดำเนินการทดสอบได้; การวิเคราะห์เชิงวัตถุมีการกำหนดที่ชัดเจน สามารถทดสอบย้อนหลังได้ การตัดสินผลอย่างวัตถุประสงค์สามารถทำซ้ำได้

การกำหนดมาตรฐาน

ความแตกต่างระหว่างการวิเคราะห์เชิงอัตนัยและเชิงวัตถุอยู่ที่เกณฑ์ความสามารถในการโปรแกรม (Programmability criterion): หากและเฉพาะเมื่อวิธีการซื้อขายนั้นสามารถถูกสร้างเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างตำแหน่งในตลาดที่ชัดเจน หากไม่สามารถทำได้ จะนับเป็นวิธีการซื้อขายเชิงอัตนัย หากกลยุทธ์การซื้อขายสามารถโปรแกรมอย่างชัดเจนได้ ก็สามารถกลายเป็นมาตรฐานในการตรวจสอบได้。

ผลสรุป

ดังนั้นการซื้อขายเชิงวัตถุจะต้องถูกแปลงเป็นการวิเคราะห์เชิงปริมาณที่ชัดเจน มันต้องสร้างกลยุทธ์ที่สามารถดำเนินการในรูปแบบระบบการซื้อขาย โดยทั่วไปแล้วการซื้อขายเชิงอัตนัยที่ผ่านวิธีการทางวิทยาศาสตร์จะมีโอกาสเปลี่ยนเป็นการซื้อขายเชิงวัตถุ，而การซื้อขายเชิงวัตถุและการซื้อขายเชิงปริมาณ ระบบการซื้อขาย และการซื้อขายตามโปรแกรม实际上是一个体的多面向。