บทนำ

ผู้ค้าสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศหลายคนที่เพิ่งเริ่มต้นเชื่อว่าความสำเร็จในการเทรด Forex ขึ้นอยู่กับการระบุแนวโน้มปัจจุบันของคู่เงินอย่างถูกต้องและตัดสินใจการเทรดตามแนวโน้มเหล่านั้น แม้ว่าความเข้าใจนี้จะไม่ผิด แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ในการเทรดที่อาจตัดสินใจว่าผู้ค้าจะสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจปัจจัยเหล่านี้และทำให้คุณมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการใช้แนวโน้ม Forex อย่างมีประสิทธิภาพ

เข้าใจระดับแนวต้านและแนวรับที่สำคัญ

ในฐานะผู้ค้าสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศ คุณควรติดตามระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากระดับเหล่านี้มักจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อแนวโน้ม Forex ที่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น แนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งอาจทะลุผ่านระดับแนวต้านในระยะสั้นและดำเนินต่อไปอย่างไรก็ตาม แนวโน้มนี้อาจกลับตัวเมื่อเผชิญกับระดับแนวต้านระยะกลางหรือระยะยาว สำหรับแนวโน้มขาลงก็เช่นเดียวกัน เมื่อแนวโน้มขาลงพบกับระดับแนวรับระยะยาว ก็อาจมีการกลับตัวเนื่องจากผลกระทบที่แข็งแกร่งของระดับแนวรับ

ติดตามรูปแบบกราฟที่เปลี่ยนแปลง

ผู้ค้าสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศที่มีประสิทธิภาพจะติดตามรูปแบบกราฟที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อกำหนดเวลาในการกลับตัวของแนวโน้มหรือการทะลุผ่านรูปแบบปัจจุบัน การติดตามรูปแบบกราฟที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ มักจะช่วยให้ผู้ค้าคาดการณ์ทิศทางราคาที่เป็นไปได้สำหรับคู่เงินหนึ่งๆ คุณต้องติดตามรูปแบบที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งรวมถึงรูปแบบรูปกรวยขาขึ้นและขาลง, รูปแบบหัวและไหล่, รูปแบบสองยอด, สามยอด, สองข้างล่าง และสามข้างล่าง

ติดตามการแตกหักของแนวโน้มที่มีอยู่

แนวโน้ม Forex มีแนวโน้มสายหลัก 3 ประเภท ได้แก่ แนวโน้มที่ชัน, แนวโน้มระดับปานกลาง และแนวโน้มที่อ่อนแรง ในฐานะผู้ค้าสัญญาซื้อขายคุณต้องจดจ่อกับการแตกหักที่เกิดขึ้นในแนวโน้มที่มีอยู่ เนื่องจากการแตกหักอาจบ่งชี้ว่าแนวโน้มปัจจุบันอาจจะกลับตัว อย่างไรก็ตาม การแตกหักของแนวโน้มแต่ละประเภทอาจมีปฏิกิริยาแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น หลังจากการแตกหักของแนวโน้มที่ชันไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการกลับตัวของแนวโน้ม ตัวอย่างเช่น การแตกหักของแนวโน้มระดับกลางย่อมง่ายที่จะกลับตัวเป็นแนวโน้มที่อ่อนแรงและเมื่อแนวโน้มที่อ่อนแรงแตกหัก มันมักจะแสดงให้เห็นว่ากำลังจะกลับตัวเป็นแนวโน้มใหม่

ติดตามการเบี่ยงเบนและการรวมตัวของตัวชี้วัด

หนึ่งในตัวชี้วัดแนวโน้มที่ใช้กันมากที่สุดใน Forex คือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเบลนด์หรือ MACD ทุกครั้งที่คู่เงินสร้างราคาสูงขึ้น MACD จะเคลื่อนที่ไปในทางตรงกันข้าม เราเรียกสิ่งนี้ว่า "การเบี่ยงเบน" หรือ “เบี่ยง” การเบี่ยงเบนระหว่างตัวชี้วัด MACD และแนวโน้มที่มีอยู่มักบ่งบอกถึงแนวโน้มที่อาจจะกลับตัว ในฐานะผู้ค้าสัญญาซื้อขาย คุณควรมองว่า "การเบี่ยงเบน" เป็นสัญญาณที่ควรปิดการเทรด

สรุปการเทรด

ในฐานะผู้ค้าสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศ คุณต้องบันทึกการเทรดทุกครั้งและเขียนเหตุผลที่ผ่านมาก่อนที่จะทำการเทรดแต่ละครั้ง โดยการบันทึกการเทรด คุณสามารถสรุปการเทรดที่ผ่านมาและค้นหาข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้และหลีกเลี่ยงซ้ำรอยเดิม คุณสามารถเลือกที่จะบันทึกในสมุดบันทึกหรือบันทึกในไฟล์ดิจิทัล สามารถใช้เครื่อง(Screen) เพื่อบันทึกการเทรด และคุณยังสามารถนำไปบันทึกในรูปแบบวีดีโอ

แนวทางการเทรดที่เหนือกว่า

คำแนะนำข้างต้นควรทำให้ผู้ค้าสัญญาซื้อขาย Forex ได้รับประโยชน์ ควรจำไว้ว่าไม่มีระบบการเทรดที่สมบูรณ์แบบแน่นอน ถึงแม้ว่าจะใช้คำแนะนำที่กล่าวมาข้างต้น คุณก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงการขาดทุนได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อการเทรดเกิดการขาดทุน คุณต้องรวมกลยุทธ์ที่กล่าวมาพร้อมกับการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมเพื่อหยุดการขาดทุนได้ทันที